เจาะลึกชีวิต 'น้องปราง' แอดมิชชั่นสูงสุดในประเทศ
ใครอยากเก่งมาทางนี้!

"ปราง" หรือ "ศิรดา ไตรตรึงษ์ทัศนา" สาวน้อยวัย 18 ปี นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ผู้ที่แอดมิชชั่นติดคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์-โฆษณา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนน 91.60 ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นว่า "ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ที่สอบติดคณะนิเทศศาสตร์ และได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ตั้งใจว่าในอนาคตอยากทำงานด้านภาพยนตร์ หรือครีเอทีฟโฆษณา คิดว่าน่าจะได้รับความรู้และประสบการณ์เพื่อนำไปสู่การประกอบอาชีพที่ดี"
ติว ติว และก็ติว ปรางไม่เคร่งเครียดขนาดนั้น ไม่ได้ติวตลอดค่ะ สบายๆ แต่รู้ว่าจุดไหนต้องซีเรียส จุดไหนต้องเล่น เราชอบศิลปะ เราชอบความสวยงาม ชอบความน่ารัก ปรางเอาตรงนี้มาช่วยในเรื่องเรียน ปรางทำให้เรื่องเรียนเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อแบบที่ทุกคนคิด คือปรางมีความสุข ถึงคนอื่นจะไม่เป็น แต่ปรางมีความความสุข เวลาอาจารย์พูดแล้วปรางก็นั่งจด
มุมมองเรื่องความเก่ง ปรางคิดว่า เป็นเรื่องของการแบ่งโหมดของตัวเองมากกว่า คือปรางเอง ถ้าเรียนก็จะเครียดไปเลย บางทีคุณพ่อเห็น ก็จะแบบว่าทำไมดูเครียดจัง แต่ที่ปรางเครียดเพราะว่า ปรางปรับโหมดแค่ช่วงนึง แต่พอสอบเสร็จ คุณพ่อก็จะแปลกใจ ทำไมเปลี่ยนโหมดเร็ว ทำไมมาดูหนังแล้วประมาณนี้ คือปรางก็จะแบบเรียนเป็นเรียน เวลาเล่นก็จะเล่นจริงๆ เล่นแบบจะไม่แตะหนังสือเรียน ตอนซัมเมอร์จะไม่มีการแบบ ขึ้น ม.6 จะต้องอ่านหนังสือก่อน ไม่มีเลยคะ คือเราต้องพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะว่าพอเราพักเต็มที่ เราจะรู้สึกเบื่อ รู้สึกว่าเราควรจะทำอะไรแล้วนะ พอเปิดเทอม เราก็จะทำเต็มที่มาก เราจะตั้งใจมาก พอเราทำเต็มที่แล้ว เราก็จะอยากพัก มันก็จะมันก็จะเป็นช่วงของมัน คือเราต้องรู้จักตัวเอง ว่าชอบแนวไหน
ค้นตัวเองให้เจอ มันเกิดมาจากเรื่องของสีสัน เริ่มตั้งแต่ ม.2 คือเรียนชีวะแล้ว ก็มีเลือดดำเลือดแดง ก็ต้องไปซื้อปากกาสี แล้วมานั่งวาดรูปหัวใจ หัวใจก็จะสีแดงไม่ได้ เพราะมันมีเลือดแดงแล้ว อ่ะปากกาสีที่ 3 เริ่มมา อย่างตับเป็นสีอะไร ก็ต้องไปซื้ออีกอะไร แบบนี้ เหมือนกับมันค่อยๆ มาเรื่อยๆ
เมื่อคุณพ่อ-คุณแม่เป็นหมอ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เคร่งเลย ไม่ได้แบบว่าต้องเป๊ะๆ 2 ทุ่มนอนไรงี้ ไม่มี จริงๆ คุณพ่อเป็นคนชวนดูหนังถึง 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ บางทีปรางก็บอกคุณพ่อว่า อยากเรียนพิเศษ คุณพ่อบอกว่า อย่าเรียนเลย ไปเที่ยวกันเถอะ ครอบครัวปรางก็เลยไม่เครียดค่ะ เพราะปรางจะเป็นคนร่าเริง สบายๆ ตลกๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น แบบที่ทุกคนคิดเลย
ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว วันธรรมดา วันหยุด ปรางก็นัดเพื่อนออกไปกินข้าวบ้าง ไปถ่ายรูป บางครั้งออกจากบ้านหลายวันแล้วเหนื่อย ก็จะอยู่บ้านดูเกมโชว์ ดูทีวี ไม่ก็เล่นเกมกับน้อง และก็ดูซีรีส์ ซีรีส์นี่ดูได้หมดค่ะ ทั้งต่างประเทศ ทั้งเกาหลี แต่ปรางชอบซีรีส์ฝรั่งมากกว่า และก็อ่านหนังสือ
มาถึงเรื่องเรียน "นิเทศศาสตร์" จริงๆ เกี่ยวกับนิเทศ เมื่อก่อนเป็นงานอดิเรกของปราง คือปรางชอบถ่ายรูป และก็ชอบเอารูปมาทำสื่อขำๆ ให้เพื่อนทำวิดีโอตลกๆ พอมาตอน ม.4 มีโปรเจกต์วิชาคณิตศาสตร์ให้ทำเป็นเหมือนวิดีโอหรือพรีเซนต์หน้าห้อง ตอนนั้นทุกคนก็จะอายมาก ทุกคนจะทำเป็นวิดีโอหมดเลย แล้วทีนี้ปัญหาคือในกลุ่มของปราง ก็จะไม่มีใครยอมตัดต่อวีดีโอ คือปรางก็เลยอาสา แล้วก็ลองไปโหลดโปรแกรมมาแล้วศึกษาด้วยตัวเอง ตอนแรกก็ไม่เป็น แต่ถ้าทำได้มันก็เจ๋ง ก็สนุกค่ะ หลังจากนั้น ก็เริ่มหาเรื่องทำ เหมือนกับเวลาไปเที่ยวก็จะเอารูปเพื่อนๆ มาตัดต่อตลกๆ ใครทำหน้าเหวอๆ ก็ประกอบเพลงตลกๆ สุดท้ายพอขึ้น ม.6 ก็อยากจะทดสอบฝีมือตัวเองว่าดีไหม ก็เลยไปประกวดเอ็มวีของธรรมศาสตร์ แล้วก็ได้รางวัล ทีน ซอยส์ อวอร์ด มา ซึ่งเราทำเอง คิดเอง เลยรู้สึกว่ายิ่งทำยิ่งสนุก ต่อให้ไม่ได้นอน ทำจนถึงดึกแล้วต้องส่งพรุ่งนี้ ก็สนุก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น